ความเสียหายของกระบอกไฮดรอลิค และ กระบอกนิวมาตริก
ความเสียหายของกระบอกไฮดรอลิค และ กระบอกนิวมาตริก ผู้ใช้งานกระบอกไฮดรอลิค และ กระบอกนิวมาตริก ส่วนใหญ่อาจเคยประสบปัญหาเดียวกันคือ กระบอกเกิดความเสียหาย ซึ่งความเสียหายของกระบอกที่เกิดขึ้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายสาเหตุ ทางกลอบอลซีล จึงได้ทำการรวบรวมและ นำเสนอสาเหตุเพื่อเป็นแนวทางการป้องกัน ดังต่อไปนี้
"ความเสียหายที่พบในกระบอกไฮดรอลิคมีหลายลักษณะ เช่น เสียหายจากการเสียดสีของโลหะกับโลหะ "
และการเสียดสีกันของโลหะนี้ มีสาเหตุมาจากอะไรบ้างซึ่งเราต้องทำการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุด
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อพบความเสียหาย
1. ความดันในการใช้งาน และ ภาระของกระบอก (Pressure, Force)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกบวม, เพลาคดงอ, ปั๊มไฮดรอลิคเสียหาย
สาเหตุ : ความดันในการใช้งานไม่เหมาะสมกับการออกแบบ อาจจะน้อยเกินไปหรือมากเกินไป
: การออกแบบขนาดของอุปกรณ์ไม่เหมาะสมกับ ภาระของกระบอก
2. สารตัวกลางเกิดการปนเปื้อน (Fluid Contaminate)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกเป็นรอย, เพลาเป็นรอย, พบเศษสิ่งสกปรกในกระบอก, ลูกสูบเป็นรอย
สาเหตุ : สารตัวกลางเกิดการปนเปื้อน เนื่องจากความสะอาดของภาชนะ หรือการเกิดปฏิกิริยาเคมี
3. การเกิดภาระด้านเดียว (Side Load)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกเป็นรอย, เพลาเป็นรอย, คอกระบอก (Gland) เป็นรอย, ลูกสูบเป็นรอย
สาเหตุ : การติดตั้งชิ้นงานในแนวฉียงทำให้น้ำหนักของกระบอกตกลงมาอยู่ด้านเดียว ทำให้เกิดการกดทับกันของชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อกระบอกใช้งานทำให้เกิดการเสียดสี และเกิดความเสียหายตามมา
4. ค่าพิกัดสวมของชิ้นงาน (Clearance)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกเป็นรอย, เพลาเป็นรอย, คอกระบอก (Gland) เป็นรอย, ลูกสูบเป็นรอย
สาเหตุ : พิกัดสวมระหว่างชิ้นงานไม่เหมาะสม อาจจะเบียดกันเกินไปทำให้เกิดการเสียดสีเมื่อใช้งาน
5.วัสดุที่ใช้ (Material)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกเป็นรอย, เพลาเป็นรอย, คอกระบอก (Gland) เป็นรอย, ลูกสูบเป็นรอย
สาเหตุ : เลือกวัสดุที่จะใช้ผิดประเภท เช่นความแข็งน้อยเกินไป เมื่อนำไปใช้งานกับวัสดุที่แข็งกว่า เมื่อเกิดการเสียดสี จึงเกิดความเสียหาย หรือ เลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงต่ำเมื่อมีภาระมากระทำ ทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน
6.อุณหภูมิในการใช้งาน (Temp)
ลักษณะความเสียหาย : กระบอกร้าว, เกิดรอยไหม้ที่ผิวชิ้นส่วนต่างๆ
สาเหตุ : อุณหภูมิ ที่สุงมากเกินไปทำให้ตัววัสดุ เกิดความร้อนสะสมจนทำให้เกิดการแตกหัก หรือผิดรูปได้